เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน แน่นอนสิ่งที่ตามมาเหมือนเงาตามตัว คือความรับผิดชอบที่จะยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน
ส่งผลให้ความเครียดก่อร่างสร้างตัวขึ้นโดยที่บางคนไม่รู้ตัว ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย
น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เผยว่า คนที่อยู่ในวัยทำงาน
หากเกิดความเครียดจะส่งผลกระทบไปยังความสัมพันธ์ต่อบุคคลอื่น ทั้งเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา
และส่งผลให้ไม่มีความสุขในการทำงาน และอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงการทำงานในอนาคต
เพราะความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว และไม่ทราบว่าขณะนั้นตัวเองเครียด
จึงพาลให้เกิดการกระทบกระทั่งกับคนรอบข้าง จนถึงทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนร่วมงาน
ความเครียดเป็นสิ่งที่รู้ตัวได้ยาก บางครั้งคนเราก็ไม่ยอมรับว่าตนเองกำลังอยู่ในภาวะเครียด
หากอยากทราบสภาวะจิตใจตนเอง ก็สามารถทำได้โดยใช้แบบประเมินเป็นตัววัด
ซึ่งสามารถหาได้จากเว็บไซต์กรมสุขภาพจิต http://www.dmp.go.th
เพื่อให้ดูระดับความเครียดที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไข
บางครั้งอาจต้องทำแบบประเมินความเครียด ควบคู่กับแบบประเมินภาวะซึมเศร้า
บางครั้งความเครียดที่สะสมอาจก่อตัวจนเกิดการป่วยทางใจ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข
หากจะสังเกตว่าตนเองเครียดหรือไม่
เริ่มแรกพิจารณาจากอาการทางกายในหลายๆ ระบบที่เกิดผลกระทบ เช่น หัวใจสั่น ใจเต้นแรง ความดันขึ้น
ปวดหัว ปวดท้อง ปวดไหล่ ปวดหลัง ส่วนอาการทางใจ เช่น หงุดหงิด โมโหง่าย หลงลืม ฉุนเฉียว โมโหง่าย
หลายคนต้องเข้าออกโรงพยาบาลโดยหาสาเหตุการเจ็บป่วยไม่พบ
เนื่องมาจากความเครียดที่เรื้อรังไม่ได้รับการดูแล จนส่งผลไปถึงระบบทางกาย
น.พ.อภิชัย แนะนำวิธีคลายเครียดว่า สิ่งแรกไม่ควรคลายเครียดด้วยการใช้แอลกอฮอล์
เพราะจะช่วยได้เพียงชั่วคราวและสร้างปัญหาในภายหลัง
กิจกรรมที่ควรทำเมื่อรู้สึกเครียดมีหลายรูปแบบ ควรเลือกตามที่ถนัดและทำแล้วเกิดความสุข
ทำกาย โดยการออกกำลัง ทำใจ คือการคิดในแง่บวกเมื่อเกิดปัญหา ทำสมาธิ โดยการทำจิตให้นิ่ง
และทำบุญ เพราะเมื่อช่วยเหลือคนอื่นที่มีความทุกข์ จะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น
วิธีต่างๆ เหล่านี้ได้รับการทดลองและยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่า สามารถใช้ได้ผลจริง
หากทำแล้วไม่ได้ผลยังเกิดความเครียด และมีปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
น.พ.อภิชัย แนะว่าควรปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะความเครียดถือเป็นความเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง ซึ่งจะสร้างผลกระทบมากมาย
ข้อมูลโดย : http://www.matichon.co.th/khaosod/
ที่มา : http://www.dmh.go.th
ภาพจาก : http://www.fotosearch.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น