ปัจจุบันนี้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข หรืออาจจะมีทุกข์บ้าง หรือขัดแย้งในบางครั้ง
ก็คงต้องมี "มนุษยสัมพันธ์" เป็นตัวหลัก ในการที่จะเป็นตัวเชื่อมโยงความรู้สึกที่ดีต่อกัน
ความปรองดอง ความเป็นมิตรไมตรี รวมทั้งการเห็นอกเห็นใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ซึ่งทางจิตวิทยาได้วิเคราะห์ และให้ความหมายของคำว่า
"มนุษยสัมพันธ์" (HUMAN RELATIONS) คือ "การอยู่ร่วมกับคนอื่นด้วยความสุข"
แต่ปัญหามีอยู่ที่ว่า เหตุใดมนุษยสัมพันธ์ซึ่งฟังดูก็เป็นสิ่งที่ง่ายๆ ธรรมดาๆ
แต่คนโดยทั่วๆ ไป ก็ยังไม่สามารถจะปฏิบัติได้ด้วยดีนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร
หรือถ้าจะกล่าวง่ายๆ ก็คือว่าเหตุใดคนเราจึงทำดี หรือมีสัมพันธ์อันดีกับบุคคลทุกๆ คนไม่ได้
เช่น ความเกลียดชังผู้อื่น การอิจฉาริษยา ชอบพูดจาดูถูกดูหมิ่นหยาบคายต่อผู้อื่น
ไม่เห็นอกเห็นใจผู้ที่เดือดร้อนกว่าเรา มีความเห็นแก่ตัว ฯลฯ
ซึ่งเราคงต้องรู้สาเหตุว่าอะไรที่ทำให้คนเราขาดมนุษยสัมพันธ์นั้น
ถ้าพิจารณาเพียงผิวเผินอาจเป็นเพราะปัญหาความขัดแย้ง การไม่ชอบขี้หน้ากัน
หากเราลองวิเคราะห์พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจะพบว่า
สาเหตุที่คนเราไม่มีมนุษยสัมพันธ์ดังกล่าวข้างต้นนั้น หาใช่เป็นสาเหตุใหญ่
แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้คนเราไม่มีมนุษยสัมพันธ์อันดีกับคนทุกคนก็คือ อยู่ที่ตัวเรานั่นเอง
คือเราไม่ชอบเปลี่ยนแปลงที่จะทำความดีต่อผู้อื่น ชอบกระทำการใดๆ ที่ตัวเองต้องได้รับผลประโยชน์อย่างสูงสุด
จนทำให้ติดเป็นนิสัย จึงทำให้ไม่ชอบที่จะทำดี หรือมีมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อผู้อื่นแล้ว
ซึ่งเราสามารถที่จะแก้ไขพฤติกรรมอันนี้ได้ไม่ยาก
ก่อนอื่นเราจะต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงตัวของเราเองให้ทำดี หรือหมั่นทำดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
ความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือร่วมใจก็ย่อมเกิดขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งนี้อาจจะช้าหรือเร็วก็ได้
ถ้าคนเราสามารถทำได้ตามข้างต้นปัญหาต่างๆ อันมากมายก็ไม่เกิดขึ้น
เพราะคนเรามี "มนุษยสัมพันธ์" ที่อันดีต่อกันปัญหาต่างๆก็จะสามารถแก้ได้โดยไม่อยากเลยค่ะ..
ข้อมูลโดย : http://www.naewna.com
ที่มา : http://www.dmh.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น